fbpx

กีต้าร์คลาสสิคคืออะไร? เรียนกีต้าร์คลาสสิคเริ่มต้นที่ไหน?

สารบัญเนื้อหา

  1. กีต้าร์คลาสสิคคืออะไร?
  2. ประวัติและการพัฒนาของกีต้าร์คลาสสิค
  3. การเลือกกีต้าร์คลาสสิคสำหรับผู้เริ่มต้น
  4. เริ่มเรียนกีต้าร์คลาสสิคที่ไหน?
  5. วิธีการฝึกฝนกีต้าร์คลาสสิคสำหรับผู้เริ่มต้น
  6. กีต้าร์คลาสสิคในงานดนตรีร่วมสมัย
  7. ความท้าทายในการเรียนกีต้าร์คลาสสิค
  8. สรุป

กีต้าร์คลาสสิคคืออะไร?

กีต้าร์คลาสสิค (Classical Guitar) เป็นหนึ่งในประเภทของกีต้าร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยถือกำเนิดมานับร้อยปีในยุโรป กีต้าร์ชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน ทั้งในด้านการออกแบบ การสร้างเสียง และวิธีการเล่น กีต้าร์คลาสสิคใช้สายไนลอน (Nylon) ที่ให้เสียงที่อ่อนนุ่มกว่าสายโลหะ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในกีต้าร์โปร่งแบบทั่วไป เสียงที่ได้จากกีต้าร์คลาสสิคนั้นมีความละเอียดและไพเราะอย่างมาก เหมาะสำหรับการเล่นเพลงที่มีการประพันธ์อย่างประณีต โดยเฉพาะเพลงคลาสสิคที่มักถูกแต่งขึ้นในยุคบาโรกและยุคโรแมนติก

ตัวกีต้าร์คลาสสิคเองยังมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญอื่นๆ เช่น คอที่กว้างกว่ากีต้าร์โปร่งทั่วไป และรูปทรงของตัวกีต้าร์ที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นโน้ตได้ชัดเจนและละเอียด การเล่นกีต้าร์คลาสสิคส่วนใหญ่มักไม่ใช้ปิ๊ก (Pick) แต่จะใช้นิ้วในการกรีดสายทำให้เกิดเสียงที่นุ่มนวลและลึกซึ้ง

ประวัติและการพัฒนาของกีต้าร์คลาสสิค

กีต้าร์คลาสสิคเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วงยุคกลาง แต่มีการพัฒนาอย่างมากในยุคบาโรก (Baroque) และยุคโรแมนติก (Romantic) โดยเฉพาะในประเทศสเปน ซึ่งกีต้าร์คลาสสิคได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลานั้น คอมโพสเซอร์ชื่อดังเช่น Francisco Tárrega และ Andrés Segovia ได้พัฒนาการเล่นกีต้าร์คลาสสิคและประพันธ์เพลงที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก

ในช่วงศตวรรษที่ 19 กีต้าร์คลาสสิคเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในยุโรปและอเมริกา ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างของตัวกีต้าร์ ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพสูงขึ้น และส่งผลให้กีต้าร์คลาสสิคกลายเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ในงานคอนเสิร์ตอย่างแพร่หลาย

การเลือกกีต้าร์คลาสสิคสำหรับผู้เริ่มต้น

การเลือกกีต้าร์คลาสสิคที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเรียนดนตรีคลาสสิค ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อกีต้าร์คลาสสิค ได้แก่:

  1. ขนาดของกีต้าร์
    กีต้าร์คลาสสิคมีหลายขนาด เช่น ขนาดมาตรฐาน (Full-size) และขนาดเล็กกว่าสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีมือเล็ก การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้การเล่นสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. วัสดุของกีต้าร์
    กีต้าร์คลาสสิคคุณภาพสูงมักทำจากไม้ที่มีคุณภาพ เช่น ไม้ซีดาร์ (Cedar) หรือไม้สปรูซ (Spruce) ซึ่งให้เสียงที่คมชัดและมีความลึก วัสดุของตัวกีต้าร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเสียงที่ได้
  3. การตั้งงบประมาณ
    ราคาของกีต้าร์คลาสสิคมีความแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุและงานฝีมือ การเลือกกีต้าร์สำหรับผู้เริ่มต้นอาจเริ่มจากรุ่นที่มีราคากลาง ๆ และสามารถอัปเกรดได้เมื่อมีทักษะและความชำนาญมากขึ้น

เริ่มเรียนกีต้าร์คลาสสิคที่ไหน?

สำหรับผู้ที่สนใจในการเรียนกีต้าร์คลาสสิค การเลือกสถานที่เรียนเป็นปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งอาจเริ่มต้นจากการเลือกโรงเรียนดนตรีหรือครูสอนที่มีความเชี่ยวชาญ

  1. โรงเรียนสอนดนตรีมีภูมิ
    โรงเรียนสอนดนตรีมีภูมิ (Meephoom Music and Performing Arts School) เป็นสถานที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนกีต้าร์คลาสสิค โรงเรียนนี้มีครูผู้สอนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการสอนกีต้าร์คลาสสิค ทั้งในระดับเบื้องต้นและระดับสูง ซึ่งสามารถช่วยให้คุณพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง
  2. การเรียนออนไลน์
    ในปัจจุบันการเรียนกีต้าร์คลาสสิคผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ มีคอร์สออนไลน์และวิดีโอสอนกีต้าร์คลาสสิคจากครูผู้สอนทั่วโลก ที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่เรียน การเรียนออนไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางเวลาที่ไม่แน่นอน แต่ยังคงต้องการฝึกฝนทักษะทางดนตรี

วิธีการฝึกฝนกีต้าร์คลาสสิคสำหรับผู้เริ่มต้น

  1. การฝึกใช้นิ้วมือและการตั้งท่าที่ถูกต้อง
    การเล่นกีต้าร์คลาสสิคเน้นที่การใช้นิ้วมือทั้งขวาและซ้ายในการกรีดสายและกดคอร์ด ดังนั้นการตั้งท่ามือให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก การนั่งท่าที่เหมาะสมและการใช้ขาในการประคองกีต้าร์ก็มีส่วนในการทำให้การเล่นคล่องตัวและเสียงที่ออกมามีคุณภาพ
  2. การอ่านโน้ตดนตรี
    การเรียนกีต้าร์คลาสสิคมักจะใช้การอ่านโน้ตดนตรีสากล (Standard notation) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการเล่นเพลงคลาสสิคที่มีการเรียบเรียงซับซ้อน การฝึกอ่านโน้ตในช่วงแรกอาจจะยาก แต่เป็นสิ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะการเล่นให้ดีขึ้นในระยะยาว
  3. ฝึกซ้อมทุกวัน
    การฝึกฝนเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะการเล่นกีต้าร์คลาสสิค การฝึกซ้อมทุกวันจะช่วยให้คุณพัฒนาความสามารถได้รวดเร็วขึ้น การตั้งเวลาในการฝึกฝนในแต่ละวัน เช่น วันละ 30 นาที จะทำให้คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในเวลาไม่นาน

กีต้าร์คลาสสิคในงานดนตรีร่วมสมัย

แม้ว่ากีต้าร์คลาสสิคจะเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ในการเล่นเพลงคลาสสิค แต่ปัจจุบันกีต้าร์คลาสสิคยังถูกนำมาใช้ในการเล่นดนตรีร่วมสมัย (Contemporary music) ด้วย ไม่ว่าจะเป็นดนตรีแจ๊ส บอสซาโนว่า หรือดนตรีป๊อป การใช้กีต้าร์คลาสสิคในการเล่นดนตรีร่วมสมัยทำให้เกิดความหลากหลายและสร้างเสียงที่มีเอกลักษณ์

ความท้าทายในการเรียนกีต้าร์คลาสสิค

  1. การเรียนรู้เทคนิคที่ซับซ้อน
    กีต้าร์คลาสสิคมีเทคนิคการเล่นที่ซับซ้อนมากกว่ากีต้าร์โปร่งทั่วไป เช่น การเล่นสายแบบฟิงเกอร์สไตล์ (Fingerstyle) ซึ่งต้องการความแม่นยำในการใช้นิ้วและการควบคุมเสียง การฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้อาจจะใช้เวลาและความอดทน
  2. การอ่านโน้ตที่ต้องใช้ความเข้าใจเชิงลึก
    ดนตรีคลาสสิคมักมีโน้ตที่ซับซ้อน และต้องการการอ่านโน้ตที่เข้าใจได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นอาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างมาก
  3. การฝึกฝนที่ต้องใช้เวลาและความอดทน
    การเรียนกีต้าร์คลาสสิคต้องใช้เวลาและความอดทนในการฝึกฝน ผู้เรียนต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและไม่ควรหยุดพัฒนาทักษะในระยะเวลานาน

สรุป

กีต้าร์คลาสสิคเป็นเครื่องดนตรีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีบทบาทสำคัญในวงการดนตรีคลาสสิคและดนตรีร่วมสมัย การเรียนกีต้าร์คลาสสิคไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะทางดนตรี แต่ยังช่วยฝึกฝนทักษะด้านความอดทน สมาธิ และความเข้าใจในดนตรีอย่างลึกซึ้ง สำหรับผู้ที่สนใจในการเรียนกีต้าร์คลาสสิค การเลือกครูผู้สอนหรือโรงเรียนดนตรีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ

สนใจเรียนดนตรีกับมีภูมิ สามารถทดลองเรียนได้ฟรี

  • ยกเว้นคอร์สเต้นจะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท เมื่อมีการสมัครเรียนจะคืนเงินให้กับท่าน