เสียงเพลงช่วยทำให้เรียนเก่งขึ้นได้ ข้อศึกษาและทำการค้นพบใหม่ที่ Harmony Project ลอส แองเจลิส

นักวิจัยศึกษาและทำการค้นพบวิวัฒนาการสมองของเด็กๆที่เติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ยากจนข้นแค้นนั้น จะมีความรับรู้ด้านเสียงแตกต่างกับเด็กๆที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นผลการศึกษาวิจัยชิ้นปัจจุบันบอกว่าการฝึกหัดสมองของเด็กๆที่ยากจน ด้วยเสียงเพลง สามารถช่วยปรับปรุงความสามารถที่เกิดจากการเรียนรู้ของเด็กๆพวกนั้นได้ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เครื่องพิสูจน์นี้สัมผัสได้จากโครงการชื่อ ‘Harmony Project’ ที่นครลอส แองเจลิส

เสียงโทนต่ำของ แตร ทรอมโบน (Trombone) อุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีจำพวกเครื่องเป่าทองเหลือ งที่มีคันชักปรับระดับเสียง เป็นสิ่งที่ทำให้ Karina Reyes สาวน้อยวัยเพียงแค่ 16 ปี หลงรักและก็ติดอกติดใจเมื่อได้รู้จัก

Karina กล่าวว่า เสียงและก็ความรู้สึกที่ได้เล่นทรอมโบนเป็นสิ่งที่เธอติดอกติดใจ และก็เป็นเรื่องไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆจะเล่นเครื่องเป่าที่มีขนาดใหญ่แล้วก็ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดในบรรดาเครื่องเป่าทั้งหลายแหล่

Karina เรียนดนตรีมาแล้ว 5 ปีกับ โครงการฮาร์โมนี ( Harmony Project) ที่ Margaret Martin ผู้จัดตั้งโครงการ มุ่งหวังที่จะมุ่งช่วยเหลือเด็กยากจนหรือมีปัญหาความร้ายแรงในครอบครัว ให้หันมาเรียนหนังสือและก็เรียนจบอย่างต่ำในระดับมัธยมด้วยการฝึกการสอนเรียนดนตรี แต่ว่าสิ่งที่ได้กลับเหนือการคาดการณ์

ผู้จัดตั้งโครงการ Harmony กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พุทธศักราช2551 เป็นต้นมา เด็กนักเรียนโครงการของเธอที่จบชั้นมัธยมฯกว่าจำนวนร้อยละ 93 สามารถเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับคุณภาพของอเมริกาได้หลายที่ นอกนั้นยังพบว่าจำนวนมากสามารถเข้าห้องเรียนในสาขาวิชาที่ใช้ความถนัดสูง เป็นต้นว่า ด้านประสาทวิทยาด้านการแพทย์ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมทางด้านการแพทย์ มานุษยวิทยาเชิงวัฒนธรรม แล้วก็มีบางบุคคลถึงกับขนาดได้รับทุนฟูลไบรท์ ซึ่งทำให้เธอประหลากใจแล้วก็มีความรู้สึกว่าไม่น่าจะเกี่ยวเนื่องกับการศึกษาดนตรี

แต่ว่า นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น คุณ Nina Kraus ที่ทำศึกษาค้นคว้าและก็ทดสอบด้วยการติดเซนเซอร์ที่หัวของเด็กๆในโครงการเพื่อวัดค่าสนองตอบจากเสียงดนตรีก่อนรวมทั้งหลังการศึกษาดนตรี พบว่า เด็กๆยากไร้กลุ่มนี้มีกระบวนการตอบสนองต่อเสียงแตกต่างจากเด็กที่มีฐานะดีมากกว่าสำหรับการทดสอบแบบเดียวกัน

นักค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น กล่าวว่า สัญญานของระบบประสาทของเด็กๆที่มีฐานะยากไร้มีการประมวลผลในเนื้อหาของเสียงต่างๆอย่างเที่ยงตรง แม้กระนั้นการเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัดภายหลังที่มีการเรียนดนตรีสม่ำเสมอมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งเธอแน่ใจว่าเด็กๆที่เรียนดนตรีมีระบบประสาทสำหรับในการตอบสนองต่อเสียงต่างๆอย่างเที่ยงตรง รวมทั้งยิ่งเล่นดนตรีหรือเรียนดนตรีเยอะแค่ไหน ผลของการตอบสนองก็จะดียิ่งขึ้นมากมายแค่นั้น

แม้กระนั้นนักค้นคว้าท่านนี้ ออกตัวไว้ก่อนว่า ผลจากการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยนี้เป็นเพียงแค่การเรียนรู้เฉพาะเด็กๆในโครงการฮาร์โมนี เพียงแค่นั้น ซึ่งยังคงเป็นกรุ๊ปเล็กๆและก็ยังคงจำต้องเรียนรู้รวมทั้งพิสูจน์การทดสอบนี้ในกลุ่มทดลองที่ใหญ่แล้วก็หลากหลายมากยิ่งขึ้น

Ivan Ignacio Arce เยาวชนที่เรียนดนตรีในโครงการ ฮาร์โมนี กล่าวว่า ดนตรีช่วยปรับปรุงความสามารถการศึกษาในหลายๆอย่าง เขาศึกษาและทำการค้นพบด้วยตัวเองว่า เขาสามารถรู้เรื่องสิ่งต่างๆได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น มีส่วนร่วมในห้องเรียน โต้แย้งเสวนา กับเพื่อนร่วมห้องและก็อาจารย์ได้อย่างสนุก

เหมือนกันกับ Karina สาวน้อยผู้หลงไหลใน เครื่องเป่า ทรอมโบน ก็เห็นด้วยเช่นเดียวกันว่า แม้กระทั้งวิชาเลข ที่เคยยาก ยังง่ายดายมากยิ่งขึ้นสำหรับเธอเพียงเพราะจังหวะดนตรี การนับเลขรวมทั้งคิดเลขก็ยิ่งง่าย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าดนตรีช่วยเธอพัฒนาการเรียนได้จริงๆ

Margaret Martin ผู้จัดตั้งโครงการฮาร์โมนี บอกตบท้ายว่า ถ้าหากพวกเราอยากที่จะลดช่องว่างด้านการศึกษาลง บางครั้งดนตรีบางทีก็อาจจะเป็นเรื่องจำเป็นในการใส่เข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในหลักสูตรการศึกษาชั้นเรียนตั้งแต่ชั้นประถมเลยก็ยังได้

เครดิตข้อมูลบทความจาก
voathai.com